แนวคิดและทฤษฎี Henri Fayol
1. หลักการ/แนวคิด/ประวัติความเป็นมา
• มีชีวิตอยู่ในช่วง
ปี ค.ศ. 1841-1926 เป็นชาวฝรั่งเศส นักเศรษฐศาสตร์และนักทฤษฎีทุนนิยมเสรีแนวใหม่ (neoclassical
economic)
• ค.ศ. 1860
เมื่อเขาจบการศึกษาอายุได้ 19 ปี เขาได้เข้าทำงานที่บริษัทเหมืองแร่ชื่อ Compagnie
de Commentry-Fourchambeau-Decazeville
• ได้ไต่เต้าสู่ตำแหน่งสูงสุดเป็นผู้อำนวยการในช่วงปี
ค.ศ. 1888-1918
• เขาได้เขียนหนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์เมื่อปี
ค.ศ. 1916 ชื่อ Administration industrielle et générale หรือ
หลักการบริหารอุตสาหกรรม
หลักการบริหาร 14 ข้อ
- การมีเอกภาพในการบังคับบัญชา (Unity of Command) 10. ความมีระเบียบวินัย (Discipline)
- การมีเอกภาพในการสั่งการ (Unity of Direction) 11. ความคิดริเริ่ม (Initiative)
- การแบ่งงานกันทำ (Division of Work) 12. ผลประโยชน์ของบุคคลควรจะเป็นรองจาก
- การรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง (Centralization) ผลประโยชน์ส่วนรวม (Sulxordination of
- อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ (Authority and Responsibility) Individual Interest to the General Personnel)
- ความเสมอภาค (Equity) 13. ความมั่นคงในหน้าที่การงาน
7.
สายการบังคับบัญชา (Scalar Chain) (Stability
of Lenore of Personnel)
- การให้ผลประโยชน์ตอบแทน (Remuneration) 14. ความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
9.
การมีระเบียบข้อบังคับ (Order)
(Esprit de Crope)
2. เครื่องมือนี้คืออะไร/มีองค์ประกอบอะไร
เฮนรี่ ฟาโยล
(Henri Fayol) ได้สรุปเป็นทฤษฎีว่า
หากวันหนึ่งคุณต้องอยู่ในสภาวะที่ต้องใช้คนจำนวนมากๆ ในการทำงานแล้วละก็หัวใจของการบริหารจัดการเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมายนั้น
มีองค์ประกอบด้วยกัน
- การวางแผน (Planning)
- การจัดองค์การ (Organizing)
- การบังคับบัญชาหรือการสั่งการ (Commanding)
- การประสานงาน (Coordinating)
- การควบคุม (Controlling)
3. เครื่องมือนี้ใช้เพื่ออะไร
จากหลักการด้านการจัดการของ
Fayol นั้น เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้จัดการในองค์การเป็นอย่างมาก Fayol
ได้กล่าวว่า
หลักการของเขาไม่ใช่เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ประโยชน์ในงานต่างๆ
หลักการของ Fayol มีลักษณะเป็นสากลซึ่งต่อมาได้มีการอธิบายขยายความต่อโดย Sheldon,
Urwick และ Barnard
4. ข้อดี/ข้อเสีย ของเครื่องมือ
ข้อดี ข้อเสีย
-
องค์การมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากที่มีการปรับปรุงกระบวนการบริหาร
- มุ่งเน้นผู้ปฏิบัติงานในระดับผู้บังคับบัญชาเป็นส่วนใหญ่
-
สามารถพัฒนาผลผลิตของคนงานให้ดีขึ้นได้
-
สามารถนำมาใช้ในการบริหารงานวิชาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ใช้อย่างไร
ทฤษฎีการบริหารของ
Fayol ยอมรับองค์กรที่เป็นทางการ โดยใช้ประโยชน์จากการแบ่งงานกันทำ (Specialization)
และเน้นถึงความสำคัญที่ว่าอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบต้องเท่ากัน
โดย Fayol ระบุเป้าหมายที่สำคัญขององค์การ คือ ความเป็นระเบียบ ความมั่นคง
ความคิดริเริ่ม และความสามัคคี นักทฤษฎีการบริหารจะต้องเป็นนักปฏิบัติอย่างแท้จริง
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับนักทฤษฎีระบบองค์การขนาดใหญ่แล้ว
สิ่งที่พวกเขาสนใจและให้ความสำคัญ คือ
หลักการและแนวคิดสำหรับการประสบความสำเร็จขององค์การซึ่งเป็นทางการ
นักทฤษฎีระบบองค์การขนาดใหญ่จะกล่าวถึงลักษณะที่ควรจะเป็น
ส่วนนักทฤษฎีการบริหารจะมองในลักษณะที่ว่า
จะทำให้องค์การประสบความสำเร็จได้อย่างไร กล่าวคือ ให้ความสำคัญกับการบริหาร
ว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญขององค์การ
6. มีใครนำเครื่องมือนี้ไปใช้บ้างและได้ผลสรุปอย่างไร
Ø
หลักการบริหารจัดการนั้น
สามารถนำไปใช้ได้เป็นการทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นงานบริหาร จัดการของเอกชน หรือของรัฐ
ผู้บริหารจะต้องมีคุณลักษณะพร้อมความสามารถทางร่างกาย
จิตใจ ไหวพริบ การศึกษาหาความรู้ เทคนิคในการทำงาน และประสบการณ์ต่าง ๆ
Fayol แยกแยะให้เห็นว่าคุณสมบัติทางด้าน เทคนิควิธีการทำงาน นั้น
สำคัญที่สุดในระดับคนงานธรรมดา
แต่สำหรับระดับสูงขึ้นไปกว่านั้นความสามารถทางด้านบริหาร จะเพิ่มความสำคัญตามลำดับ
และมีความสำคัญมากที่สุดในระดับผู้บริหารขั้นสุดยอด (Top executive) ควรจะได้มีการอบรม
(training) ความรู้ทางด้านบริหารควบคู่กันไปกับความรู้ทางด้านเทคนิคในการทำงาน
7. กรณีศึกษา
Title: ความคิดเห็นของผู้บริหารระดับต้นและพนักงานระดับปฏิบัติการที่มีต่อการจัดการตามหลักการจัดการของ
Henri Fayol กรณีศึกษา บริษัท ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยี [ประเทศไทย] จำกัด
Title Alternative : The opinion
of primary management level and operator level in management theory of Henri
Fayol a case study of Hitachi Global Storage Technologies [Thailand] Limited.
Creator : Name: โสภา นาคสะโร Subject : ThaSH: การจัดการ –
วิจัย
Classification
:.DDC: 658.4032
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น